วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อะคาเพลล่า A cappella 
(เพลงร้องประสานเสียงไม่มีเครื่องดนตรีประกอบ)
<iframe src="https://www.facebook.com/plugins/video.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FShehabAgency.MainPage%2Fvideos%2F1588430524532695%2F&show_text=0&width=560" width="560" height="315" style="border:none;overflow:hidden" scrolling="no" frameborder="0" allowTransparency="true" allowFullScreen="true"></iframe>
-------------------------------

ปาเลสไตน์ รู้ภาษาอาหรับดีตั้งแต่เกิด อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทางศาสนาก็มากมาย
แต่พวกเขาก็ยังร้อง รำ ทำเพลงกัน ไม่เห็นจะต้องนะชีดอย่างเดียว มีเครื่องดนตรีไม่ได้
และ..
"นะชีด" คือ ท่วงทีการร้องเพลง สรรเสริญพระเจ้าของยิวและคริสต์ (A cappella (It. อะคาเปลลา) เดิมหมายถึงเพลงโบสถ์ขับร้องหมู่สมัยโบราณซึ่งไม่ใช้เครื่องดนตรีคลอ ปัจจุบันหมายถึง เพลงขับร้องหมู่ที่ไม่ใช้เครื่องดนตรีคลอ เช่นเดียวกันโดยไม่จำกัดว่าจะเป็นเพลงโบสถ์หรือไม่ มาจากคำภาษาอิตาเลี่ยนมีความหมายว่า chapel (หมายถึง โบสถ์)
อ้างอิง:
[نَشِيد ( اسم ) :
canto
- one of the parts into which a long poem is divided
- state of singing or often-repeated tune to which psalms and canticles are fitted
- a song of praise, especially to God in Christian worship
- a musical composition comprising a short poem or other set of words
نَشِيد :
anthem ; chant ; hymn ; song]
----------------------------
อิสลามไม่ได้สอนให้คลั่งศาสนา
- นบีท่านสอนให้ทำแต่พอประมาณที่ตนทำไหว เพราร่างกายมีสิทธิ์ที่จะได้รับการดูแลและพักผ่อน(หะดีษเกี่ยวกับนางหนึ่งซึ่งทำละหมาดตลอดทั้งคืน ท่านทรงห้าม
- อีกบทหนึ่งว่าด้วยเรื่องจะถือศีลอด(เซามุ)ตลอดทั้งปี ท่านทรงห้าม
-อีกบทหนึ่ง มีทาสีนางหนึ่งตีกลองร้องลำนำให้ท่านนบีฟัง พอท่านอุมัรเข้ามา นางโยนกลองเข้าไปซุกใต้เตียงท่านนบี ท่านไม่ได้ห้าม
.......................................

Palestinian Arabic language since birth. Qualified instructors, many religious.
But they also sing and dance together,
"She's good," the poise to sing. Praise God of Jews and Christians (A cappella (It. I leave Capel) was meant to sing church music among ancient instrument, which does not use chlorine. Current means Among the songs sung without instrumental accompaniment. Likewise, without limitation, be it music or church. Comes from the Italian word meaning the chapel (referring to the church).
Refer:
http://www.almaany.com/.../di.../ar-en/%D9%86%D8%B4%D9%8A%D8%AF/
[نشيد (اسم):
canto
- One of the parts into which a long poem is divided.
- State of singing or often-repeated tune to which psalms and canticles are fitted.
- A song of praise, especially to God in Christian worship.
- A musical composition comprising a short poem or other set of words.
نشيد:
anthem; chant; hymn; song]
----------------------------
Islam does not teach religion.
- The Prophet taught to do, but they do not know enough. Because the body has the right to receive care and leisure (Hadith about which one she prayed all night, you would not suffer.
- Another chapter with regard to fasting (South Sea) all year, he would not suffer.
- Another chapter has painted her one drum rhythm singers to listen to the prophet. When Umar m. Mrs. Prophet Oinklag tucked into bed. You Do not
.......................................


บริเวณร้องเพลงสวด (อังกฤษ: Choir หรือ quire) ในทางสถาปัตยกรรม “บริเวณร้องเพลงสวด” เป็นบริเวณภายใน คริสต์ศาสนสถาน หรือมหาวิหารที่มักจะตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของบริเวณพิธี (chancel) ระหว่างทางเดินกลาง (nave) และบริเวณศักดิ์สิทธิ์ (sanctuary) (ที่เป็นที่ตั้งแท่นบูชา) แต่บางครั้ง “บริเวณร้องเพลงสวด” ก็อาจจะตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของทางเดินกลาง ในวัดของสำนักสงฆ์บางแห่งบริเวณนี้ก็จะตั้งอยู่ทางตะวันตกของทางเดินกลางซึ่งเป็นการสมดุลกับบริเวณพิธีและบริเวณศักดิ์สิทธิ์
......................
English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
anthem[N] เพลงสวดในโบสถ์, See also: เพลงสวดSyn. song of praise
carol[N] เพลงสวดหรือเพลงที่ร้องเพื่อความสนุกสนาน, Syn. Christmas song
chant[N] เพลงที่ใช้ร้องในโบสถ์, See also: เพลงสวดมนต์Syn. religious song
hymn[N] กลอนสวด, See also: เพลงสวดเพลงสรรเสริญ
litany[N] เพลงสวดSee also: บทสวด
psalm[N] เพลงสวดSyn. sacred songhymndoxology
requiem[N] การสวดมนต์ส่งวิญญาณผู้ตาย, See also: เพลงสวดศพ
spiritual[N] เพลงสวดSee also: เพลงศาสนาSyn. hymnreligious song
- ดนตรีประเภทขับร้อง (Vocal Music)
- ดนตรีขับร้องประกอบพิธีกรรม (Ritual Music) 
- แชนท์ (Chants) เป็นเพลงสวดของศาสนาคริสต์ในศาสนกิจต่าง ๆ
- ออร์กานุ่ม (Organum)เป็นบทเพลงศาสนาร้องประสานเสียงแบบโพลิโฟนิค
(Polyphonic Style)
- โมเท็ต (Motet) โดยปกติแล้วจะอยู่ในตำราทางศาสนา (Sacred text) และใช้ในพิธี
กรรมของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค (Roman Catholic)
ออราทอริโอ (Oratorio) ออราทอริโอ (Oratorio) คือ บทเพลงที่ประกอบไปด้วยการร้องเดี่ยวของนักร้องระดับเสียง
ต่าง ๆ การร้องของวงประสานเสียง
แคนตาตา (Cantata) แคนตาตา(Cantata) คือ บทประพันธ์ประเภทเพลงร้องที่นิยม
ประพันธ์กันในสมัยบาโรค ประกอบไปด้วยเพลงร้องหลายท่อน
แมส (Mass)แมส คือ บทเพลงสวดของชาวโรมันแคธอลิค มีพิธีสวดเรียกว่า พิธีแมส หรือ พิธีมิสซา เป็น
พิธีสวดมนต์ในพิธีถวายมหาบูชาแก่พระผู้เป็นเจ้า
Missa Brevisเป็นบทสวดประสานเสียงสั้น ๆ ทีมักจะสวดกันเพียง 2 บท คือ บท Kyrie 
และ Gloria
..Missa Solemins เป็นเพลงแมสที่ยาวที่สุด ประกอบด้วยเพลงย่อย ๆ หลาย ๆ เพลง ใช้ใน
งานที่เป็นพิธีรีตรองสำคัญ ๆ เช่น เพลง Mass in D, Op. 123 ของ Beethoven
..Missa Prodefunctus (Requiem) หรือ the Mass for the Dead มักเรียก Missa 
Requiem เรควิเอียม (Requiem Mass) คือ เพลงสวดสำหรับงานศพ
..........................................

ตัวอย่าง A cappella:
https://www.youtube.com/watch?v=7LOVUAc4rZU
https://www.youtube.com/watch?v=M2RqZXShfQo&index=2&list=RDa3HcvDQaE5g
https://www.youtube.com/watch?v=nOyhnlF7zHo
การขับร้องอะคาเพลล่า(นะชีต)ในไทย มีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน
การเล่นดนตรีร้องลำนำท่านนบีไม่เคยห้าม
แล้วทำไมฟังดนตรีจึงผิด
ท่านนบีฟังเสียงกลองและขับลำนำ ไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวนางทาสี
สมัยนั้นยังไม่มีปิอาโน กีต้าร์ มีแต่กลอง ท่านนบีคงไม่เคยได้ยินเสียงกีต้าร์แน่นอน
เพราะไม่มีในสมันท่านหรืออย่างไร จึงนำมาเล่นแล้วผิด
(เป็นความคิดที่สุดดิ่งลงเหว)

.........................................................

"การเลียนแบบ หรือการกระทำ อากับกิริยา ประเพณี จากศาสนาอื่นเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะเท่ากับเขาได้กลายไปเป็นส่วนหนึ่งของศาสนานั้น ประชาชาตินั้น" หะดีษหนึ่งของท่านนบี

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

หะดีษซอเฮี๊ยะห์ เล่มที่ 3


สารบัญ (อัตตาจ อรุณ บุญชม)

                                                                                                                       เล่มที่ 3

          ภาค กำหนดโทษต่างๆ

บทที่ 1  เตือนให้อยู่ห่างไกลจากการฆ่ากัน และการอาชกรรมอื่นๆ ที่จะถูกลงโทษ
357
บทที่ 2 ดิยะห์ (ค่าปรับต่ออาชญากรรม)
361
ดิยะห์ของเด็กที่อยู่ในท้องที่ถูกฆ่า(ทำให้แท้ง) คือ ฆุรเราะห์
365
ดิยะห์ของอวัยวะต่างๆ
366
อัลเกาะซามะห์
368
บทที่ 3 บุคคลที่ไม่ได้รับการคุ้มครองชีวิตและร่างกาย
368
กฎคนทิ้งศาสนา คนก่อความเสียหาย และพวกนอกคอก
369
ผู้ใดด่าท่านนบี(ซ.ล.) จะถูกประหารชีวิต
371
บทที่ 4 อัตราโทษการลักขโมย และพิกัดขั้นต่ำ
371
คดีที่ไม่ถึงกับต้องตัดมือ
372
บทที่ 5 อัตราโทษการละเมิดประเวณี(ซินา)
373
จะยังไม่ลงโทษหญิงที่มีน้ำคาวปลา และหญิงตั้งครรภ์
377
ข้อกำหนดของเรื่องลิวาต การชำเราสัตว์ และผู้ที่ห้ามแต่งงานด้วย
378
อัตราโทษของการด่า การกล่าวหา การทำคุณไสย
379
บทที่ 6 อัตราโทษของผู้ดื่มสุรา
381
การลงโทษด้วยการเฆี่ยน การคุมขังและการเนรเทศ
382
ไม่ให้เฆี่ยนที่ใบหน้า และไม่ให้ลงโทษในมัสญิด
383
เงื่อนไขต่างๆของการลงโทษ
384
บทที่ 7 การให้อภัยและการปกปิดที่ยังไม่ถึงผู้นำ(ไม่วิจารณ์ผู้ต้องที่ยังไม่ได้ตัดสิน)
385
บทสุดท้าย การลงโทษ การลบล้างความผิด
387
          ภาค การปกครอง การตัดสินคดี (การพิพากษา)
389
ตอนที่ 1 ใครคือผู้มีสิทธิ์ในการปกครอง
389
ความไม่พึงปรารถนาในหน้าที่
390
ตอนที่ 2 การให้คำมั่นสัญญา และการรักษาสัญญา
391
จำเป็นต้องเชื่อฟังผู้นำ และห้ามปลีกตัวออกห่างเพื่อก่อความกระด้างกระเดื่อง กรือกบฏ
393
ตอนที่ 3 หน้าที่ของผู้นำ
396
ผู้นำต้องคัดเลือกคณะผู้ช่วยและคณะผู้ปกครอง โดยมีเงินเดือนให้แก่พวกเขา
399
ต้องบริสุทธิ์ใจแก่ผู้นำ
401
ห้ามติดสินบน และมอบของกำนัลแก่ผู้พิภากษา
402
ผู้นำมีสิทธิ์แต่งตั้งคนที่ไว้ใจได้ทำหน้าที่แทน
403
บทที่ 4 การตัดสิน  

อัลลอฮฺทรงอยู่กับผู้ตัดสินที่ทรงความยุติธรรม
404
ให้พยายามออกห่างการตัดสินอย่างอยุติธรรม
405
ระเบียบการตัดสิน
405
โจทก์ต้องหาพยาน และการสาบานเหนือจำเลย
406
คำที่ใช้สาบาน
407
พยาน
407
เตือนไม่ให้เป็นพยานเท็จ เพราะเป็นบาปใหญ่
408
ตอนที่ 5 การวินิจฉัย
409
ผู้ตัดสินมีสิทธิ์กักตัวผู้ถูกกล่าวหา
412
อนุญาให้แต่งตั้ง อนุญาโตตุลาการ
413
บทสุดท้าย การไกล่เกลี่ย
413
          ภาค การสาบาน และการบนบานสานกล่าว

บทที่ 1 การสาบาน
415
ห้ามสาบานด้วยสิ่งอื่น นอกเหนือจากอัลลอฮฺ
416
การสาบานเท็จ
417
สาบานที่ไร้สาระ
418
การสาบานขึ้นอยู่กับเจตนา
419
ไม่เป็นการทวนคำสาบาน พร้อมด้วยคำยกเว้น
419
บทที่ 2 การบนบาน
421
แก้บนแทนคนตายได้
422
ไม่ถือว่าเป็นการบนบานในสิ่งที่ตนไม่สามารถ และในสิ่งที่เป็นความชั่ว
423
ผู้ใดบนบานว่าจะบริจาคทานด้วยทรัพย์สินของเขา จะตกเป็นทรัพย์สินบนบานได้เพียง1/3
425
ยอมให้ทวนคำสาบานและบนบานโดยต้องเสียค่าปรับ(กัฟฟาเราะห์)
426
บทสุดท้าย อธิบายค่าปรับ(กัฟฟาเราะห์)ของคำสาบานและบนบาน
427
          ภาค สัตว์ที่ถูกล่า และสัตว์ที่ถูกเชือด

ตอนที่ 1 สัตว์ที่ศาสนาให้รับประทานได้
429
สัตว์ทะเลและซากมัน
431
ตอนที่ 2 สัตว์ที่ศาสนาไม่อนุญาตให้รับประทาน
432
สัตว์ที่ห้ามฆ่า และสัตว์ที่ให้ฆ่า
434
งูที่พบในบ้านให้เตือนสามครั้ง
436
ตอนที่ 3 การล่าสัตว์ และการเชือดสัตว์
437
การเชือดสัตว์
439
เชือดลูกในท้องด้วยการเชือดแม่ของมัน
440
การกล่าวบิสมิลลาฮ์ฯ และให้มีความประณีตในการเชือด
440
สัตว์ที่ถูกเชือดโดยผู้ศรัทธาในคัมภีร์อัลลอฮฺเป็นสิ่งหะลาล
 441
อะกีเกาะห์ และสิ่งที่ทำให้แก่ทารกคลอดใหม่
442
ฟะเราะห์ และอะตีเราะห์
443
ตอนที่ 4 คอฮิยะห์(สัตว์กุรบาน)
444
สัตว์ที่ใช้ทำกุรบานได้ และไม่ได้
446
บทสุดท้าย ระเบียบที่เกี่ยวกับสัตว์กุรบาน และอนุญาตให้เก็บเนื้อกุรบานไว้ได้
448
          ภาค อาหาร และเครื่องดื่ม

ตอนที่ 1 ระเบียบต่ออาหาร
450
ตอนที่ 2 ระเบียบต่อเครื่องดื่ม
455
กล่าวคำสรรเสริญอัลลอฮฺหลังรับประทานและดื่ม
457
ภาชนะเครื่องใช้
458
ตอนที่ 3 อาหารของคนจำนวนมาก และอาหารต้อนรับอาคันตุกะ
460
ตอนที่ 4 สิ่งที่ใช้เป็นอาหาร
463
ผักต่างๆที่ท่านนบี(ซ.ล.)ไม่ชอบ(หัวหรือต้นหอม, กระเทียมสด)
466
ตอนที่ 5 เครื่องดื่ม
467
ที่มาแห่งสุรา(เคาะมัร)
468
เตือนห้ามดื่มสุรา
470
บทสุดท้าย สุราจะไม่กลายเป็นน้ำส้มสายชู
472
อนุญาตน้ำหมักที่ยังไม่มีแอลกอฮอร์
473
          ภาค เครื่องนุ่งห่ม

บทที่ 1 ผ้าไหม ทองคำ เงิน เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับชาย
474
ผ้าไหม ทองคำ เงิน เป็นสิ่งอนุมัตแก่ผู้หญิง
477
บทที่ 2 ประเภทของเครื่องนุ่งห่ม
477
ผ้าขนสัตว์ชนิดนุ่มและหยาบ และผ้าอื่นๆเป็นที่อนุมัติ
478
สีของเสื้อผ้า
480
ผ้าโพกศีรษะและชายห้อย
482
ตอน แหวน  อนุมัติแหวนที่ทำจากเงิน หะรอมแหวนทองคำ(สำหรับชาย)
483
รองเท้าแตะ
485
ควรรักษาความสะอาด
486
บทที่ 3 ระเบียบในการนุ่งห่ม
487
การกล่าวคำสรรเสริญอัลลอฮฺจณะสวมใส่เสื้อผ้า
489
เครื่องนุ่งห่มสตรี
490
บทที่ 4 แนวทางที่เป็นธรรมชาติบริสุทธิ์
492
ผมและการหวีสางผม
493
การย้อมผม
494
ห้ามต่อผม สักยันต์ หรือสิ่งที่เหมือนกัทั้งสองนั้น
495
กระพวน
496
การเลียนแบบ และการปลอมแปลง เป็นสิ่งต้องห้าม
497
ห้ามทำร้ายใบหน้า ตบหน้า นาบด้วยเหล็กไฟ
498
บทที่ 5 เครื่องประดับตกแต่งบ้าน
499
สารสร้างรูปปั้นเป็นสิ่งต้องห้าม และกีดกันมลาอิกะห์เข้าบ้าน
501
บทสุดท้าย ควรใช้เครื่องหอม
503
          ภาค การเยียวยา และคาถา

คำนำภาคเยียวยา - ความประเสริฐของโรคภัยไข้เจ็บและความอดทนต่อการเจ็บป่วย
505
ผลบุญของการอดทนต่อโรคอหิวาห์ตกโรค
507
การกระทำคุณไสย
508
ยาพิษ
509
การเยี่ยมผู้ป่วยเป็นซุนนะต์
511
สิ่งที่ควรกล่าวขณะเกิดความวิบัติ  اَلْمُصِيـْبَةَ Catastrophe
512
ตอนที่ 1 อนุญาตให้เยียวยา รักษาโรค
513
การห้ามน้ำ ห้ามอาหารเป็นหัวยา
514
ตอนที่ 2 การเยียวยาของท่านนบี(ซ.ล.)

ส่วนที่1 น้ำผึ้ง การนาบด้วยไฟ และการกรอกเลือด
515
สถานที่และเวลากรอกเลือด
516
เมล็ดสีดำ(เมล็ดยี่หร่า)
517
ไม้กฤษณาของอินเดีย, ยากรอก ยาหยอดจมูก และยาถ่าย
518
อินทผผาลัม อัจวะห์ และกำอะห์(เห็ดถ่าน)  وَمِنَّهُ تَمَرَاتٍ الْعَجَّوَةٍ وَ الْـكَمْاءَةَ
519
ตัลบีนะห์ และยาตา
520
น้ำมันมะกอก และลูกประคำดีควาย
521
นม และเยี่ยวอูฐ
522
ขี้เถ้าสำหรับพอกบาดแผล
523
แตงร้าน และอินทผาลัมห่าม เป็นยาบำรุงร่างกายให้อ้วนท้วน
523
ตอนที่ 3 คาถา
524
คำที่ใช้เป็นคาถา
525



































-----------------------

























------------------------------------------













---------------------------------




















-----------------------------------------























---------------------------------------------






























-----------------------------------






















----------------------------------------
จบเล่มที่ 3 มี 7 ภาค